รวมหนังทุกตอน
The Light Between Oceans (2016) อย่าปล่อยให้รักสลาย
ตัวอย่าง The Light Between Oceans (2016) อย่าปล่อยให้รักสลาย
ดูหนัง The Light Between Oceans (2016) อย่าปล่อยให้รักสลาย
The Light Between Oceans (2016) อย่าปล่อยให้รักสลาย ผมเชื่อว่าคนที่ดูหนังหัวข้อนี้จบแล้ว คงจะมีความคิดที่นานาประการเกี่ยวกับการตัดสินใจของผู้แสดงในเรื่อง บางคนอาจมองว่าผู้แสดงนำทำเรื่องราวให้มันยุ่งยากโดยใช่เหตุ แม้กระนั้นบางบุคคลก็อาจมองว่าผู้แสดงนำทำในสิ่งที่ถูกเหมาะสมแล้ว…ผมมองว่านั่นเป็นแก่นสารอย่างหนึ่งที่หนังมอบให้ครับ เสมือนหนังเล่าราวของตัวละครกรุ๊ปหนึ่งให้เราได้รับทราบ แล้วต่อจากนั้นเมื่อเราเกิดความรู้สึก “เห็นด้วย-ไม่เห็นพ้อง” กับการตัดสินใจของตัวละคร สิ่งนั้นก็จะสะท้อนบางมุมมองในตัวของเราออกมาได้ ซึ่งผมจะไม่กล่าวว่ามันดีไหมดีนะขอรับ ขอบอกเพียงว่า We are what We thinkหนังดัดแปลงแก้ไขจากนิยายของ M.L. Stedman เล่าเรื่องของทอม เชอร์บอร์น (Michael Fassbender) สมัยก่อนทหารที่รับงานเป็นคนเฝ้าประภาคารบนเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาจะต้องไปอยู่ตรงนั้นคนเดียวขอรับ นานๆทีถึงจะได้เจอคนมาส่งข้าวส่งน้ำ เป็นชีวิตโดดเดี่ยวแบบที่ทำให้คนบางคนสติแตกเอาได้อย่างง่ายๆแต่ว่าแล้วเขาก็ได้เจอรักกับอิซาเบล (Alicia Vikander) สาวชาวกรุงในละแวกนั้น แล้วพวกเขาก็แต่งงานกัน โดยอิซาเบลก็ย้ายมาอยู่กับทอมที่เกาะเรือนตะเกียง รวมทั้งตั้งอกตั้งใจจะมีครอบครัวที่อบอุ่น
มีลูกร่วมกันสักหลายคนเมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็ต้องเจอกับเรื่องปวดเมื่ออิซาเบลแท้งลูกจนถึงจิตใจเธอตกอับลงเรื่อยแล้วจู่ๆก็มีเรือลำหนึ่งลอยมาเกยฝั่ง บนเรือนั้นมีศพชายคนหนึ่ง พร้อมด้วยเด็กทารกตัวเล็กๆอยู่ในอ้อมแขนทอมกับอิซาเบลจึงตกลงใจรับเลี้ยงเด็กอ่อนคนนั้น รวมทั้งปกปิดเรื่องจริง… รวมทั้งมันก็คือจุดเริ่มแรกที่ความสำราญแล้วก็ความทุกข์ใจที่พวกเขาทั้งคู่ต้องเผชิญด้วยกัน บนกระแสคลื่นของชีวิตที่ไม่เคยนิ่งหนังอย่างงี้ทำยากเช่นกันครับ มันเป็นหนังพีเรียดที่คนทำจำต้องมือแม่นพอเหมาะพอควร อย่างน้อยก็จำเป็นต้องทำ 3 สิ่งจำเป็นให้ออกมาสวย ซึ่งก็ได้แก่ การแสดงงาม, การเล่าเรื่องสวย และฉาก-ส่วนประกอบต่างๆออกมางามเรื่องการแสดงหายห่วงครับผม เพราะเหตุว่า Fassbender และ Vikander
ไม่ทำให้ผิดหวัง เหมือนกันกับบทสมทบอย่าง Rachel Weisz และ Jack Thompson รวมทั้งอีกหลายๆตัวละครน้อยใหญ่ที่มาเสริมความแน่นให้กับเรื่องราวต่อมาเป็นเรื่องฉาก ที่ก็ถ่ายออกมาได้สวยเช่นกัน อย่างเกาะที่หนังไปถ่ายทำเป็นเรือนตะเกียงก็คือที่ Marlborough ในประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งมันดูสวยสดงดงาม ดูยิ่งใหญ่แบบพอดี เช่นเดียวกับโลเกชั่นอื่นๆที่ประกอบกันกระทั่งเป็นหนังหัวข้อนี้ก็นับว่ากับความเป็นหนังพีเรียดอย่างยิ่งการเล่าเรื่องนี่เป็นอะไรที่ผมลุ้นที่สุดนะครับ เพราะเหตุว่าหนังดราม่าพีเรียดแบบนี้มันมิได้มีเรื่องราวหวือหวาอะไร มิได้มีแอ็กชัน ความขบขัน หรือทริลเลอร์มาเป็นสีสัน ดังนั้นคนทำต้องสามารถเล่าเรื่องชีวิตคน (ที่บางทีก็อาจจะดูน้ำเสียในบางบริบท) ให้ออกมาน่าติดตาม ออกมาสวยสดงดงาม และมีความน่าสนใจ
เพราะเหตุว่ามิเช่นนั้นหนังอีกทั้งเรื่องก็จะน่าเบื่อยาวๆไปเลยรวมทั้งคำตอบที่ได้ก็จัดว่าเวิร์กเลยครับผม หนังเล่าได้น่าติดตาม เล่าแบบที่ทำให้พวกเราต้องการรู้ว่าเรื่องราวบทต่อๆไปของพวกเขาจะคืออะไร เรียกว่าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเสริมพลังกันครับผม ทั้งยังศิลปิน การเล่าเรื่อง แล้วก็องค์ประกอบต่างๆมันใส่ประสานกัน ทำให้หนังออกมาดี แต่ในที่นี้ก็จำต้องขอบอกก่อนว่า ที่บอกว่า “ดี” นี่คือดีในฐานะหนังดราม่าพีเรียดน่ะนะครับ ซึ่งหากคนไหนไม่ชอบหนังแนวนี้ หรือมองว่าหนังแนวนี้พองชืดน่าระอาแล้ว หนังประเด็นนี้ก็บางทีอาจไม่แนวสำหรับท่าน
สมัครสมชิก @viewbet369
Tags : The Light Between Oceans The Light Between Oceans อย่าปล่อยให้รักสลาย อย่าปล่อยให้รักสลาย