รวมหนังทุกตอน
ซีรีย์เอเชีย - หนังออนไลน์ moviehd24
ซีรีย์เอเชีย ไม่ใช่แค่ซีรีส์เกาหลีเท่านั้นที่เป็นที่นิยม แต่เดี๋ยวนี้ซีรีส์จากฝั่งเอเชียไม่ว่าจะเป็นซีรีส์จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น รวมถึงซีรีส์ไทยก็เป็นที่สนใจของแฟนซีรีส์ทั่วทุกมุมโลกเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเนื้อเรื่อง การกำกับการแสดง ไปจนถึงความสามารถของนักแสดงก็เจ๋งไม่แพ้ใคร กล่าวได้ว่าเป็นศูนย์รวมซีรีส์ระดับประสิทธิภาพจากทั่วทั้งโลกในทุกวันนี้ก็ว่าได้ รวมทั้งหนึ่งในชนิดซีรีส์ยอดนิยมลำดับต้นๆของช่องสตรีมมีชื่อเสียงนี้คงจะไม่พ้นซีรีส์จากฝั่งทวีปเอเชีย ที่หลายๆเรื่องล้วนติด Top 10 คอนเทนต์ ที่มีผู้ชมเยอะที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์จากประเทศเกาหลีใต้อย่าง Vagabond ,Clash Landing on You ด้านประเทศญี่ปุ่นก็ได้แก่ The Naked Director และก็จีนใน ปรมาจารย์ ลัทธิมาร แต่ว่าเว้นเสียแต่เหล่าซีรีส์ที่ชูมานั้น เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งส่วนใดจากทั้งสิ้นเพียงแค่นั้น ใน Netflix ยังได้มีซีรีส์ทวีปเอเชียประสิทธิภาพอีกหลายเรื่อง ที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอาจมองผ่าน หรือยังไม่ทราบ ซึ่งซีรีส์พวกนี้ล้วนแล้วแต่บันเทิงใจ ตื่นเต้น แล้วก็เปี่ยมประสิทธิภาพไม่แพ้ซีรีส์มีชื่อเสียงหลายๆเรื่องเลย ด้วยเหตุนั้น โพสต์นี้พวกเราก็เลยขอเสนอแนะ
ซีรีย์เอเชีย แนวจาก “Netflix ที่คุณอาจมองข้าม”
1. Not A Murder Story
ซีรีส์เรื่องแรกที่เลือกมาในวันนี้คือเรื่อง Not A Murder Story เป็นซีรีส์ไต้หวันที่กำลังถูกพูดถึงและเฝ้ารอกันอย่างมาก เนื่องจากเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างนักเขียนและผู้กำกับมากรางวัล แถมยังได้นักแสดงฝีมือดีอย่าง Liu Guan Ting, Gingle Wang และ Sonia Sui มาร่วมงานด้วย ‘Not A Murder Story’ เป็นเรื่องราวแนว Crime-Thriller เกี่ยวกับนักแสดงชายคนหนึ่งที่ทำทุกอย่างเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง แต่วันหนึ่งเขากลับตื่นขึ้นมาพร้อมกับศพของสาวเพื่อนบ้าน เพื่อไม่ให้เรื่องราวประหลาดนี้ทำลายโอกาสในการโด่งดังของเขา เขาเลือกที่จะจัดฉากให้เหมือนกับคดีปล้นฆ่า โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า เขาได้ทิ้งร่องรอยของตัวเองเอาไว้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ใครอยากรู้ต้องติดตาม
2. A Good Day to Be A Dog
ใครที่ชอบซีรีส์ที่ดูไปยิ้มไป แนะนำให้ดูซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้เลย สำหรับ A Good Day to Be A Dog เป็นเรื่องราวที่ดูได้สบาย ๆ โดยเรื่องนี้ได้พระเอกหนุ่มสุดหล่ออย่าง Cha Eun-woo และนางเอก Park Gyu-young มาร่วมแสดง รับรองเลยว่าเคมีเข้ากันน่ารัก น่าเอ็นดู ‘A Good Day to Be A Dog’ เป็นเรื่องราวของนางเอกซึ่งเป็นคุณครูสอนภาษาเกาหลีที่เกิดมาพร้อมคำสาปให้กลายร่างเป็นน้องหมาเมื่อจูบกับใครสักคน ส่วนพระเอกผู้เป็นคุณครูสอนคณิตศาสตร์ซึ่งมีความหลังฝังใจทำให้กลายเป็นคนกลัวหมา แต่เขากลับเป็นคนเดียวที่เป็นข้อยกเว้นของคำสาปนี้ ใครที่ชอบเรื่องราวความรักสุดคิวท์ และเรื่องราวแนวแฟนตาซี ห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด
3. The Legend of ShenLi
ซีรีส์เรื่องสุดท้ายที่เราคัดสรรมาให้ในวันนี้ เป็นซีรีส์จีนแนวย้อนยุค ที่เข้มข้นด้วยความดราม่า ซึ่งถูกดัดแปลงมาจากนิยายดัง ถือเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่มีแพลนจะเข้าฉายในต้นปี 2024 นี้ โดยในเรื่องนี้ได้นักแสดงอย่าง Lin Gengxin และ Zhao Liying กลับมารับบทพระเอก-นางเอกคู่กันอีกครั้ง ใครที่เป็นแฟนของคู่นี้ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง สำหรับซีรีส์เรื่อง ‘The Legend of ShenLi’ หรือในชื่อไทยคือ “ปฐพีไร้พ่าย” เป็นเรื่องราวของเสิ่นหลี นายพลชั้นสูงแห่งโลกปีศาจที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกชายของจักรพรรดิสวรรค์ เธอจึงคืนสู่ร่างนกฟีนิกส์เพื่อหนี แต่กลับได้รับบาดเจ็บ และได้พบกับ สิงจื่อ มหาเทพมังกรดำที่ใช้ชีวิตอย่างสันโดษ เรื่องราวจะสนุกเข้มข้นอย่างไร ต้องติดตาม บอกเลยว่าใครที่กำลังหาซีรีส์ที่ครบรส The Legend of ShenLi อาจเป็นซีรีส์ที่คุณรอคอย
4.My Husband Won’t Fit
ซีรีส์จากแดนปลาดิบที่ว่าด้วยเรื่องราวของ คุมิโกะ และเคนอิจิ สองคู่รักหนุ่มสาว ที่เริ่มคบหากันตั้งแต่สมัยที่ทั้งคู่เป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัย จนถึงวัยทำงาน ชีวิตรักของทั้งคู่นั้นดูราบรื่น และปกติไม่แพ้คู่รักคู่อื่น ๆ แต่ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำคัญของทั้งสองคือ เรื่องเซ็กซ์ เพราะว่าทั้งสองต่างพบว่าอวัยวะเพศของทั้งคู่ ไม่สามารถสอดใส่เข้าด้วยกันได้ ทำให้ตลอดเวลาที่คบกันมาทั้งสองไม่สามารถมีเซ็กซ์ ด้วยกันได้แม้แต่ครั้งเดียว ในขณะที่ทั้งสองเลือกที่จะไม่พูดถึงปัญหาดังกล่าวอีกต่อไป ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ค่อย ๆ มีปัญหา และนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด
สำหรับซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ขนาดสั้น ความยาวเพียง 10 ตอน ตอนละ 30 นาทีเท่านั้น แม้ว่าพลอตเรื่องจะดูติดเรท 18+ แต่สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ต้องการนำเสนอกลับไม่ใช่ฉากเลิฟซีนชวนวาบหวิวแต่อย่างใด แต่ซีรีส์ต้องการพูดถึงบทบาทของเซ็กซ์ ที่มีต่อชีวิตคู่ของคนวัยทำงาน โดยซีรีส์สามารถนำเสนอชีวิตคู่ของตัวละครออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสมจริง ในขณะเดียวกันปัญหาที่ซีรีส์นำเสนอแม้จะดูโอเวอร์ และไกลตัว แต่สิ่งที่ผู้ชมจะได้รับจากซีรีส์เรื่องนี้ไปไม่มากก็น้อยคือ ข้อคิดของการใช้ชีวิตคู่ และความโรแมนติกอบอุ่น อย่างที่เราได้รับในหนังรักญี่ปุ่นหลาย ๆ เรื่อง
5.Argon
ซีรีส์ที่ว่าด้วยวงการสื่อจากประเทศเกาหลี โดยซีรีส์จะเล่าเรื่องราวของ ทีมข่าวที่มีชื่อว่า อาร์กอน ที่นำทีมโดย คิมแบคจิน ผู้ประกาศข่าวหนุ่มไฟแรงที่ต้องการทำหน้าที่นักข่าว เพื่อเปิดเผยความเป็นจริงต่อประชาชน จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีนักข่าวชั่วคราวหน้าใหม่ไฟแรงอย่าง ยอนฮวา ได้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกคนใหม่ของทีม อาร์กอน ด้วยฝีมือการทำข่าวอันมีไหวพริบของ ยอนฮวา ทำให้เธอได้รับการมอบหมายจาก คิมแบคจิน ให้เธอทำข่าวการเปิดโปงการทุจริตครั้งสำคัญ ที่นำมาสู่โศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ของเกาหลีใต้ โดยพวกเขาจะต้องทำงานเพื่อหาความจริงมาสู่ประชาชน ท่ามกลางอุปสรรคมากมาย จากเหล่าผู้มีอำนาจที่หวังทำลายพวกเขาเช่นกัน
Argon ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์น้ำดีจากเกาหลีที่อาจไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างนัก ส่วนหนึ่งคงเพราะที่ซีรีส์มีเนื้อหาที่ว่าด้วยสื่อมวลชน แต่หากใครที่ได้ชมซีรีส์เรื่องนี้ รับประกันได้ว่าจะติดใจตั้งแต่ตอนแรก ด้วยความที่ซีรีส์มีการดำเนินเรื่องที่เข้มข้น และสามารถสะท้อนสังคมในยุคนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ซีรีส์สามารถสะท้อนภาพลักษณ์ และหน้าที่ที่ดีของสื่อผ่านตัวละครทีม อาร์กอน ออกมาได้ชัดเจน ความสนุกของซีรีส์ไม่ใช่แค่กลุ่มตัวละครคนดีที่ต่อสู้กับอำนาจมืดเท่านั้น แต่ซีรีส์ยังได้ถ่ายทอดชีวิตของคนทำงานสื่อออกมาได้สมจริง ทั้งการคัดสรรข่าวเพื่อนำมานำเสนอ การแข่งขัน ดิ้นรน เพื่อให้ตัวเองมีบทบาทในสื่อของคนผู้น้อย รวมถึงปัญหา และอุปสรรคที่สื่อในยุคนี้ต้องประสบพบเจอ ใครที่ชอบดูหนัง หรือซีรีส์แนว News Room ,The Morning Show ,Spotlight ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ถือว่าไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
6.Midnight Dinner: Tokyo Stories
อีกซีรีส์ดราม่า แสนอบอุ่นจากแดนปลาดิบ กับเรื่องราวของร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใจกลางโตเกียว ซึ่งร้านจะเปิดให้บริการหลังเที่ยงคืน จนถึงเช้าอีกวัน โดยเนื้อหาของซีรีส์ก็จะว่าด้วยผู้คนมากมายที่เดินทางมากินอาหารที่ร้านแห่งนี้ พร้อมด้วยปัญหาหนักอกหนักใจ ที่ได้มาพบกับ มาสเตอร์ผู้เป็นเจ้าของร้าน และผู้คนมากมายที่เป็นลูกค้าของร้าน ล้วนแต่ได้มาระบายปัญหา และได้รับความอบอุ่นแบบที่ร้านอาหารร้านอื่นไม่มีให้
ใครที่อยากหาซีรีส์ฟีลกู้ด เนื้อหาให้กำลังใจ และจบในตอน ซีรีส์เรื่องนี้ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง โดยซีรีส์เรื่องนี้ได้ถูกหยิบมาสร้างหลายต่อหลายครั้ง ทั้งฉบับหนัง และซีรีส์เมื่อปี 2009 สำหรับในเวอร์ชั่นของ Netflix ก็ยังคงความฟีลกู้ด ความอบอุ่นของร้านอาหารเที่ยงคืนได้เป็นอย่างดี ซีรีส์ได้ถ่ายทอดชีวิตของคนญี่ปุ่น ผ่านวัฒนธรรมการทานอาหาร และมีการแฝงข้อคิดสอนใจในแต่ละตอน ที่สำคัญ อาหารที่ซีรีส์ได้นำเสนอในแต่ละตอนก็ถ่ายทอดออกมาได้น่าทาน ชวนหิวมาก ๆ ไม่แนะนำให้ดูตอนดึก ๆ หรือตอนกำลังหิว เพราะซีรีส์เรื่องนี้อาจทรมานคุณได้ไม่น้อย
7.RE: Mind
ซีรีส์ระทึกขวัญจากญี่ปุ่น พลอตที่ชวนนึกถึง Saw ของเจมส์ วานน์ เป็นอย่างยิ่ง เพราะมันว่าด้วยเรื่องราวของเด็กนักเรียนหญิง 12 คน ที่ตื่นขึ้นมาพบว่าพวกเธอถูกล็อคขาให้นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารในห้อง ๆ หนึ่ง โดยพวกเธอจะต้องย้อนรำลึกถึงโศกนาฏกรรม ที่พวกเธอเคยทำเอาไว้กับคนรอบข้าง และต้องเผชิญกับเรื่องสุดระทึกมากมาย ทั้งประตูที่เปิดเอง กองทัพหนู และน้ำมันที่ไหลมาจากเพดาน ซึ่งเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จะค่อย ๆ บีบให้พวกเธอแต่ละคนสารภาพความในใจอันดำมืด ก่อนจะหายไปทีละคน ๆ
ใครที่อยากดูซีรีส์อะไรที่ตื่นเต้น บีบอารมณ์ แต่ไม่ชอบฉากเสียวไส้ หรือเห็นเลือดเนื้ออะไรมาก เรื่องนี้น่าจะถูกใจไม่น้อย เพราะแม้พลอตซีรีส์จะมาทรง Saw แต่ซีรีส์กลับมีการดำเนินเรื่องที่ซอฟต์มาก แทบไม่มีฉากรุนแรง โหดร้ายให้เห็นเลย แต่ความสนุกของซีรีส์เรื่องนี้คือบทที่ค่อย ๆ เผยด้านมืดของตัวละครออกมาได้น่าสนใจ โดยเฉพาะการสะท้อนประเด็นเรื่องการ Bully ในโรงเรียน นอกจากนี้ตลอดทั้ง 12 ตอนของซีรีส์ก็ได้สับขาหลอกคนดูตลอดเวลา ใครที่ชอบดูซีรีส์ที่ตื่นเต้น มีอะไรให้ลุ้น เรื่องนี้ถือว่าไม่ควรพลาด
8.Erased
เรื่องราวของ ซาโตรุ เด็กหนุ่มผู้มีความสามารถพิเศษที่สามารถย้อนเวลาได้ โดยทุก ๆ ครั้งที่เขาย้อนเวลา มักจะมีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น ทำให้เขาต้องรับหน้าที่ขัดขวางไม่ให้เรื่องร้าย ๆ นั้นเกิดขึ้นกับผู้คน จนกระทั่งวันหนึ่ง แม่ของเขาได้ถูกฆ่าตายอย่างปริศนา โดยซาโตรุได้สงสัยว่าคนร้ายอาจเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ที่เคยลงมือฆ่าเพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นเดียวกันของเขาเมื่อตอนประถม ที่ยังลอยนวลมาจนถึงทุกวันนี้ เขาจึงถูกย้อนเวลากลับมายังช่วงที่ตัวเองอยู่วัยประถมอีกครั้ง เพื่อทำการหาตัวคนร้ายตัวจริง และปกป้องเหยื่อทุกคนจากฆาตกรรายนี้ให้ได้
ซีรีส์ดัดแปลงมาจากอนิเมะชื่อเดียวกัน และเคยถูกสร้างเป็นหนังแล้วเมื่อปี 2016 ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ครบทุกอารมณ์มาก ไม่ว่าจะเป็นแฟนตาซี สืบสวน และโรแมนติก ด้วยความที่ซีรีส์มีความยาวเพียง 12 Ep. ความยาว Ep. ละ 30 นาที ทำให้เนื้อหาของซีรีส์ค่อนข้างกระชับ ไม่ยืดเยื้อ และมีบทสรุปที่ลงตัว ในขณะที่ด้านเนื้อหาก็ดำเนินไปอย่างน่าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาตัวจริงของฆาตกร การสร้างสถานการณ์โขคร้ายต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้ลุ้น ได้เอาใจช่วยไปกับตัวละครตลอดทั้งเรื่อง แม้ซีรีส์จะมีบทที่เดาทางค่อนข้างง่าย และช่วงท้าย ๆ ความสนุกของซีรีส์อาจแผ่วไปบ้าง แต่โดยรวมถือว่าเป็นซีรีส์ถ้าดูแล้วต้องติด และทำให้อยากดูรวดเดียวจบอย่างแน่นอน
9.Take My Brother Away
เรื่องราวฮา ๆ วุ่น ๆ ของสองพี่น้อง ฉือเหมี่ยว ผู้เป็นน้องสาว และฉือเฟิน ผู้เป็นพี่ชาย สองพี่น้องที่ไม่ถูกกันราวกับลิ้นกับฟัน ด้วยความที่ ฉือเฟิน เป็นคนที่มีลักษณะเป็นคนชอบกวน เรียนไม่เก่ง และชอบเอาเปรียบน้องสาวอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่ง ฉือเหมี่ยวได้ย้ายไปเรียนโรงเรียน ม.ปลายแห่งใหม่ แต่ทว่าไม่วายเธอกลับได้เรียนโรงเรียนเดียวกับผู้เป็นพี่ชาย เรื่องวุ่น ๆ มากมายของสองพี่น้อง และผู้คนในโรงเรียนก็ได้เริ่มขึ้น
ซีรีส์ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อเดียวกัน ซึ่งแม้ว่าตัวซีรีส์ใน Netflix จะเป็นเวอร์ชั่นคนแสดง แต่ความสนุกของซีรีส์เรื่องนี้กลับเป็นการคงความเป็นการ์ตูนไว้ได้เต็มเปี่ยม ทั้งโอเวอร์แอคติ้งของนักแสดง ที่เล่นเกินจริงราวกับดูอนิเมะอยู่ พร้อมทั้งมุขตลกต่าง ๆ ที่ซีรีส์จัดเต็มให้เราได้ขำกันตลอดทั้งเรื่อง ทั้งความกวนโอ้ยของ ฉือเฟิน ความน่ารักและใสซื่อของ ฉือเหมี่ยว รวมถึงคาแรคเตอร์เพี้ยน ๆ ของบรรดาเพื่อนร่วมชั้น ที่ทำให้ใครที่ได้ดูเป็นอันต้องหลงรักทุก ๆ ตัวละครในเรื่อง นอกจากด้านคอเมดี้ที่ทำออกมาได้สนุกแล้ว พาร์ทดราม่าของซีรีส์ก็ดีไม่แพ้กัน เพราะมันไม่ได้พูดถึงแค่เรื่องของพี่น้องเท่านั้น แต่ซีรีส์ยังพูดถึงเรื่องสังคม การคบเพื่อน อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็น “น้อง พี่ ที่รัก” เวอร์ชั่นจีนก็ว่าได้
10.Tidying Up with Marie Kondo
มาเปลี่ยนอารมณ์กันบ้างกับซีรีส์แนวสารคดี สร้างแรงบันดาลใจอย่าง Tidying Up with Marie Kondo ซีรีส์ที่จะพาทุกคนไปหาแรงบันดาลใจ และไอเดียดี ๆ จากการจัดบ้าน โดย มาริเอะ คนโดะ นักเขียนชาวญี่ปุ่น เจ้าของผลงาน “ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว” โดยเนื้อหาของซีรีส์จะเป็นการเดินทางไปให้คำปรึกษาในการจัดบ้านให้แต่ละครอบครัวในอเมริกา ซึ่งในซีรีส์จะพูดถึงทั้งหมด 8 ครอบครัว(แบ่งเป็นครอบครัวละตอน) พร้อมสอนวิธีการจัดบ้านต่าง ๆ โดย มาริเอะ คนโดะ ที่คนดูอย่างเรา ๆ สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตจริง
หากใครที่ได้ดูหนัง “ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” ไปแล้ว อาจได้เห็นหน้า และซีรีส์เรื่องนี้ของ มาริเอะ ผ่าน ๆ อยู่บ้าง เนื่องจากประเด็นของหนังดังกล่าวพูดเรื่องการจัดบ้านเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นซีรีส์ และพลอตดูจะบ้าน ๆ ธรรมดา ๆ แต่ซีรีส์เรื่องนี้กลับถ่ายทอดออกมาได้ดีกว่าที่คิด ด้วยความที่ทุก ๆ ตอน เราจะได้เห็นบ้านของผู้คนที่แตกต่างกันออกไป พร้อมลักษณะ อุปนิสัยของแต่ละครอบครัวที่ต่างกัน ทำให้เราได้ไปสำรวจชีวิตของผู้คนผ่านสถาบันครอบครัว นอกจากนี้การสอนของ มาริเอะ ก็ถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจ เพราะทุกคำแนะนำของ มาริเอะ คนดูอย่างเรา ๆ สามารถนำมันไปปรับใช้ได้จริงในชีวิต ที่สำคัญคือสิ่งที่ได้รับจากซีรีส์ และการจัดบ้านสไตล์มาริเอะ นั้น ทำให้เราได้พบว่า แค่จัดบ้านมันก็ได้คืนความสุขบางอย่างที่เราอาจลืมไปในครอบครัว ให้กลับคืนมาอีกครั้ง
moviehd24 เว็บไซต์ดูหนังออนไลน์ดูง่ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหนังพากย์ไทย หนังซับไทย หนังอังกฤษ หนังฝรั่ง หนังมาสเตอร์ หนังเอเชีย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ไม่เสียเงินใดๆ ดูหนังไม่มีโฆษณา หนังเต็มเรื่อง หนังใหม่อัพเดททุกวัน ดูหนังจุใจไม่เสียเงิน ดูแบบVIP
อ่านต่อ
ดูหนัง หนังใหม่ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นหนังแอคชั่น หนังเวทย์มนตร์ หนังบู๊ หนังรักโรแมนติก หนังมากมายให้เลือกดู ไม่ตัวเล่นหลัก ตัวเล่นสำรอง หนังผจญภัย หนังแฟนตาซี หนังเต็มเรื่องมาสเตอร์ ดูง่ายดูผ่านทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ ทีวีอื่นๆ