A Touch of Zen (1971) เหนือพยัคฆ์

ตัวอย่าง A Touch of Zen (1971) เหนือพยัคฆ์

ดูหนังออนไลน์ A Touch of Zen (1971) เหนือพยัคฆ์
ปีที่ฉาย :

เสียง : ซับไทย

ดูหนังออนไลน์ฟรี A Touch of Zen (1971) เหนือพยัคฆ์ on IMDb7.6/10 เวลาฉาย : 180 hd

ดูหนัง A Touch of Zen (1971) เหนือพยัคฆ์

A Touch of Zen (1971) เหนือพยัคฆ์ ตะลุยแดนศักดิ์สิทธิ์ หรือ เหนือพยัคฆ์ ชื่อภาษาไทยของภาพยนตร์จีนกำลังภายในเรื่อง A Touch of Zen (ภาษาจีนกลาง : 侠女, เสียหนี่ว์) นำแสดงโดย ไป๋อิง, สีว์เฟิง, สือเจวี้ยน, เถียนเผิง กำกับการแสดงโดย หูจินเฉวียน ความยาว 188 นาที ออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2514

หญิงชาวบ้าน หยางห่วยชิง (สีว์เฟิง) ที่อาศัยอยู่กับแม่ผู้ชรา ที่ต้องหลบหนีการตามล่าของขันทีชั่วช้ากลุ่มหนึ่ง ดูหนังออนไลน์2021  เธอมาหาที่หลบภัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ต่อมาได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มพระลึกลับ และบัณฑิตนาม กู้เสิ่งไจ (สือเจวี้ยน) ผู้ชื่นชอบการวาดภาพและชีวิตที่เรียบง่ายมากกว่าการสอบแข่งขันเป็นข้าราชการ จากนั้นการผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจจึงได้เริ่มขึ้น

A Touch of Zen เป็นภาพยนตร์สี 70 มิลลิเมตร (70 มม.) ที่สร้างมาจากนิยายเรื่องโปเยโปโลเยส่วนหนึ่ง ในตอนที่มีชื่อว่า “จอมยุทธหญิง” (侠女, เสียหนี่ว์) แต่เดิมมีความยาวทั้งสิ้น 200 นาที แต่ได้ถูกตัดให้เหลือ 188 นาที เป็นภาพยนตร์ที่ละเมียดละไมในการถ่ายทำ การกำกับศิลป์ การถ่ายภาพและการตัดต่อที่ยอดเยี่ยม มีฉากที่เข้าขั้นคลาสสิก เช่น ฉากต่อสู้ในป่าไผ่ถือเป็นฉากประทับใจที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้กำกับหนังรุ่นหลังอย่าง อั้งลี่ นำมาใช้ในภาพยนตร์กำลังภายในเรื่อง พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก ในปี พ.ศ. 2543 และจางอี้โหมว ใน จอมใจบ้านมีดบิน ในปี พ.ศ. 2547 อีกด้วย

A Touch of Zen สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2512 มีความโดดเด่นในการนำเสนอปรัชญาเต๋าแบบเซน ออกฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2514 ที่ฮ่องกงและไต้หวันแต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้ชมเท่าที่ควร จนเมื่อภายหลังในปี พ.ศ. 2518 ภาพยนตร์ได้รับรางวัลเทคนิคพิเศษ จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 28 ซึ่งนับเป็นภาพยนตร์จากจีนเรื่องแรกที่ได้รับการยอมรับในสายตาชาวโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเริ่มมีความสำคัญต่อวงการหนังจีนในเวลาต่อมา

ในวาระครบรอบ 100 ปี ของภาพยนตร์จีนในปี พ.ศ. 2548 A Touch of Zen ยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 4 ภาพยนตร์จีนดีเด่นของโลก ที่จัดอันดับโดยนิตยสารไทม์อีกด้วย และได้รับการยกย่องให้เป็นหนังกำลังภายในที่ดีที่สุดในรอบร้อยปี และได้รับการจัดอันดับให้เป็นภาพยนตร์จีนที่ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 9 ในวาระครอยรอบ 100 ปี ของภาพยนตร์จีนในปี พ.ศ. 2560

นับเป็นสุดยอดวรรณกรรม ให้เรื่องราวครบรส A Touch of Zen (1971) เหนือพยัคฆ์ และถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ ในขณะที่สมัยเก่าเทคนิคไม่มี แต่หนังแนวบู๊เฮี๊ยบ กลับออกมาโลดแล่นในบรรณภพภาพยนต์อย่างสวยงามทั้งเนื้อหาสาระและเทคนิค กลับกัน

ในยุคปัจจุบันที่เทคนิคนั้นล้ำหน้าไปไกลมากมายเสียจนแทบไม่ต้องใช้คนแสดง แต่เนื้อหาสาระกลับห่างหาย ถดถอย และบางครั้งกลับถึงขนาดว่าไร้สาระไปเลยทีเดียว บู๊เฮียบเป็นเช่นไร ซามูไรก็ดุจเดียวกัน หลังคุโรซาว่าแล้ว ความยิ่งใหญ่แห่งวิถึซามูไร ก็ลดน้อยถอยห่างออกไปเสียจนกู่ไม่กลับทีเดียว

มองไปฝั่งตะวันตกก็คล้ายกันเช่นกัน เจ็ดสิงห์แดนเสือนี่แทบเรียกว่าไม่เหลือทรงเดิมอยู่เลย

เนื้อหาเทคนิคมีแต่ขาดเสน่ห์ ยังคิดไปว่าต่อไปมันจะเป็นเยี่ยงไร ชีวิตคนและเทคโนโลยีก้าวไกลแต่ความละเอียดละออ ละเมียดละมัยในการใช้ชีวิต และการสร้างสรรคที่ละเอียดอ่อนกลับถอยหายเหลือเพียงแต่ฉากเงาแห่งความฉาบฉวย ได้แต่ถอนใจ

เป็นเรื่องของกู้เสิ่งไจ [ซีจุ้น] บัณฑิตหนุ่มผู้สมถะรักสงบ มีอาชีพรับจ้างวาดภาพเขียนตัวอักษร A Touch of Zen (1971) เหนือพยัคฆ์  ได้ให้ความช่วยเหลือหยางฮุ่ยชิง [สีเฟิง] หญิงสาวลึกลับที่ได้เฉลยในภายหลังว่าเธอเป็นลูกสาวของขุนนางตงฉินคนหนึ่ง บิดาของเธอถูกกลุ่มขุนนางกังฉินฝ่ายตรงข้ามใส่ร้ายป้ายโทษประหารล้างตระกูล ตัวหยางฮุ่ยชิงเองได้แม่ทัพสือ [ไป่อิง] และติงไล่ สองขุนนางฝ่ายเดียวกันช่วยพาหนีจากเมืองหลวงไปถึงชายแดน
ได้รับการช่วยเหลือจากหวงจีนฮุ่ยหยวน [เฉียวหง] ให้พักหลบภัยในวัดกลางหุบเขา เธอได้ฝึกวิทยายุทธกับหลวงจีนฮุ่ยหยวนเป็นเวลาสองปีก่อนจะออกจากวัดมาหลบในจวนร้างใกล้ๆ กับบ้านของกู้เสิ่งไจเพื่อสืบหาสองขุนนางตงฉินคือแม่ทัพสือและขุนนางติงไล่ที่มาแฝงตัวหลบภัยที่หมู่บ้านแห่งนี้ ภายหลังหนุ่มกู้ซึ่งเป็นผู้มีความสามารถทางบุ๋น ศึกษาพิชัยสงครามแบบพวกบัณฑิตได้ให้ความช่วยเหลือ โดยร่วมมือกับสาวนักบู๊และแม่ทัพสือขุนนางติงวางแผนเอาคืนพวกขันทีกังฉินเหล่านั้นที่สืบติดตามมาถึงตัวในเวลาใกล้เคียงกัน
ด้วยความสามารถทางบู๊ของจอมยุทธ์สาวและแม่ทัพสือขุนนางติ่ง A Touch of Zen (1971) เหนือพยัคฆ์ บวกกับแผนการรบอันชาญฉลาดของกู้เสิ่งไจ ทำให้ประสบชัยชนะขุนนางชั่วกลุ่มแรกถูกกำจัดไป หยางฮุ่ยชิงตัดสินใจละทิ้งเรื่องวุ่นวายทางโลก หนีไปปลีกวิเวกและคลอดลูกที่วัดของหลวงจีนฮุ่ยหยวน แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาสู่วังวนของการต่อสู้และการใช้ความรุนแรงอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือกู้เสิ่งไจและลูกน้อยของเธอจากกลุ่มขุนนางโฉดที่ยังเหลือในตอนจบของเรื่อง
ผมเองพยายามหาภาพยนตร์เรื่องนี้มาหลายปี ด้วยกิตติศัพท์ที่ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นหมุดหมายสำคัญหนึ่งของภาพยนตร์ในกลุ่มแอ๊กชั่นกำลังภายในที่ว่ากันว่าประกอบด้วยภาพยนตร์สามเรื่องสำคัญของยอดผู้กำกับคิงฮู [หูจินเฉวียน] คือ Come Drink With Me [หงษ์ทองคะนองศึก] ผลงานปี ๑๙๖๖ ตามมาด้วยเรื่อง Dragon Inn [ตะลุยแดนพยัคฆ์] ในปีถัดมา และ A Touch of Zen [เหนือพยัคฆ์] ภาพยนตร์ปี ๑๙๗๑
เรื่องที่กำลังพูดถึงนี้ โดยในระหว่างนั้นคือปี ๑๙๖๘ ได้มีภาพยนตร์ที่ชอว์บราเดอร์ทำออกมาเป็นภาคต่อของ Come Drink With Me แต่คิงฮูไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเขาออกไปตั้งบริษัทเองเสียก่อนแล้ว คือเรื่อง Golden Swallow [หงษ์ทองคะนองศึก ภาค ๒] โดยผู้กำกับจางเชอะ ที่อาจจะจัดเข้าร่วมกับคอลเลคชั่นนี้ได้
ผมดีใจมากที่ได้ A Touch of Zen มาเป็นเรื่องล่าสุดครบชุดหลังจากเสาะหามาหลายปี ที่น่ายินดีอีกประการคือ A Touch of Zen ฉบับนี้เป็นฉบับที่สมบูรณ์ เต็มความยาวดั้งเดิม ๑๘๗ นาที ผ่านการบูรณะโดยกระทรวงวัฒนธรรมของไต้หวัน ต้องขอบคุณกัลยาณมิตรผู้ที่เอื้อเฟื้อแบ่งปันให้มา อยากประกาศชื่อเป็นการขอบคุณ แต่เกรงเพื่อนๆ เฟสบุ๊คของผมเองจะหมั่นไส้หาว่าขี้คุย ก็ได้แต่แสดงความสำนึกไว้เป็นการส่วนตัว ณ บรรทัดนี้ครับ
ชื่อในภาษาจีนของภาพยนตร์เรื่องนี้มีความหมายว่า “จอมยุทธ์หญิง” ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งแล้วที่ภาษาไทยจะใช้ชื่อ “เหนือพยัคฆ์” เหมือนเป็นการล้อต่อเนื่องมาจากงานชิ้นก่อนหน้านี้ของผู้กำกับคิงฮูที่ใช้ชื่อภาษาไทยว่า “ตะลุยแดนพยัคฆ์” ที่สำคัญคือถ้าเราจะหมายความว่า “พยัคฆ์” คือจอมยุทธ์ฝ่ายชาย เรื่องนี้มีหญิงสาวเป็นตัวเอกเป็นแกนของเรื่องที่มีทักษะการต่อสู้ในระดับจอมยุทธ์ที่เก่งกาจไม่แพ้ผู้ชาย
ชื่อเหนือพยัคฆ์จึงเหมาะสอดคล้องทั้งการคงความหมายจากภาษาจีนและการล้อกับเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับคนเดียวกัน ส่วน “สัมผัสแห่งเซน” ที่เป็นชื่อจากภาษาอังกฤษนั้นเป็นการสื่อความในระดับแกนของเนื้อเรื่อง โดยเฉพาะการคลี่คลายของประดาความรุนแรงความขัดแย้งทั้งหลายในตอนท้ายของเรื่อง
ผมชอบคำบรรยายภาษาไทยหรือซับไตเติลของภาพยนตร์เหนือพยัคฆ์ฉบับนี้มากๆ
แม้ว่าจะมีผิดสะกดการันต์บ้าง แต่ได้แปลให้ความหมายทุกข้อความภาษาจีนที่ผู้ไม่มีความรู้ภาษาจีนไม่ทราบความหมายหรือคำแปล เช่น ข้อความในเครดิตไตเติ้ล ข้อความภาษาจีนที่ปรากฏในส่วนต่างๆ ของเรื่อง หรือแม้แต่การอ้างอิงแหล่งที่มา ถ้าข้อความนั้นมีที่มาจากแหล่งที่เป็นวรรณกรรมหรือวรรณคดีเรื่องอื่นที่เป็นที่รู้จัก
ผมไม่เจอคำบรรยายภาษาไทยที่ครบถ้วนเช่นนี้บ่อยนัก แน่นอนว่าต้องให้เครดิตกับผู้ทำคำบรรยายภาษาไทยของ A Touch of Zen ฉบับบูรณะนี้
ด้วยชื่อเรื่อง “จอมยุทธ์หญิง” และด้วยเนื้อหาที่ให้ความสำคัญกับตัวละครจอมยุทธ์หญิงหยางฮุ่ยชิง เป็นความสอดรับกับที่ในยุคนั้นผู้หญิงเป็นใหญ่ในจอภาพยนตร์ ทั้งภาพยนตร์จากฟากฝั่งเกาะไต้หวันและจากเกาะฮ่องกง
ที่แม้กระทั่งตัวละครผู้ชายในภาพยนตร์บางเรื่องยังใช้นักแสดงผู้หญิงเลย คงมีผู้รู้ที่จะช่วยให้ข้อมูลได้ว่ากระแสนี้มีความเป็นมาอย่างไร แต่ถ้าจะให้ผมสันนิษฐานก็น่าจะเป็นลักษณะที่ได้รับอิทธิพลมาจากงิ้วหรืออุปรากรจีนที่เราเห็นนักแสดงผู้หญิงรับบทบาทแสดงทั้งตัวละครหญิงและตัวละครชาย
ผู้กำกับภาพยนตร์คิงฮู ผู้กำกับภาพหัวฮุ่ยอิง และงานตัดต่อที่ผู้กำกับคิงฮูเองกับวิงชินเฉินมาร่วมรับผิดชอบ
ได้ร่วมกันใช้กล้องโลมเล่า A Touch of Zen ของพวกเขาอย่างประณีตละเอียดบรรจงตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ในซีเควนซ์สถาปณาเรื่องที่เราได้เวลาห้านาทีเต็มสำหรับการแนะนำให้ทำความรู้จักกับสถานที่หลักของเรื่องคือหมู่บ้านอันเป็นที่ตั้งของจวนร้างแห่งหนึ่งที่เรียกว่าจวนแม่ทัพเจิ้นหย่วน และบ้านของตัวเอกฝ่ายชายกู้เสิ่งไจที่พักอาศัยกับมารดาชราซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน
ภาพของสถานที่กับภูมิทัศน์อันน่าตื่นตาไม่มีตัวละครที่เป็นผู้คนห้านาทีเต็มๆ ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านงานด้านภาพอย่างที่ไม่เสียดายเวลาหรือลุกลี้ลุกลนเล่า เราค่อยๆ ซึมซับซึมซาบกับความยิ่งใหญ่ของภูมิบรรยากาศ โดยมีกล้องที่ทำหน้าที่เหมือนแปรงพู่กันของศิลปินที่บรรจงวาดภาพงามเหล่านั้นออกมาให้เราได้สัมผัสใกล้ชิดกับสถานที่อันดึงดูดใจเหล่านั้น
ตลอดสามชั่วโมงของการเล่าเรื่องที่ภาพยนตร์ใช้ภาพสวยงามเช่นนี้ในขับเคลื่อนพล้อตของเรื่อง โดยเฉพาะสองสามซีเควนซ์ที่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการเดินทางของตัวละครสำคัญ งานด้านภาพประสานกับดนตรีประกอบที่ดีงดูดให้เราดื่มด่ำกับภาพงามอย่างที่ว่านั้นอย่างสุดประทับใจ อย่างเช่นตอนที่แม่ทัพสือกับขุนนางติงไล่พาแม่นางหยางฮุ่ยชิงเดินทางหนีพวกขันทีชั่วจนได้พบกับหลวงจีนฮุ่ยหยวนในช่วงกลางๆ เรื่อง หรือตอนท้ายๆ ที่กู้เสิ่งไจออกจากหมู่บ้านเดินทางตามหาหยางฮุ่ยชิงที่หนีไปปฏิบัติธรรมที่วัด การทำงานของกล้องได้แสดงภาพงามของภูมิทัศน์เหล่านั้นออกมาได้สุดจะบรรยายจริงๆ
ในช่วงยี่สิบนาทีท้ายเรื่องที่เนื้อหาและงานด้านภาพได้แสดงความหมายของคำว่า “สัมผัสแห่งเซน” [A Touch of Zen] ชัดเจน บทบาทหลักจะอยู่ที่ตัวละครสมทบอย่างหลวงจีนฮุ่ยหยวนที่ทำหน้าที่ทั้งการโปรดสัตว์และการปราบมารไปพร้อมกัน ในเนื้อหาของความเป็นแอ๊กชั่นกำลังภายในที่ นอกจากจะมีฉากแอ๊กชั่นน่าตื่นตาแล้ว งานด้านภาพแต่ละช็อตแต่ละเฟรมยังสวยงามราวกับเป็นผลงานศิลปะสื่อความหมายแฝงปริศนาธรรมลึกซึ้งอย่างที่คัดเลือกมาเป็นตัวอย่างไม่หวาดไม่ไหว
ทุกเฟรมแสดงความหมายให้ได้ตีความที่มากไปกว่าการเล่าเรื่องไปสู่การนำเสนอแกนของเรื่องที่ต้องการแสดงให้เห็นพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพและสังฆานุภาพ การจะให้ข้อมูลเป็นข้อความข้อเขียนเพื่อการอ่านตรงนี้ มีแต่จะเป็นการจำกัดความหมายที่ภาพยนตร์ต้องการสื่อเล่า ทั้งในส่วนเนื้อเรื่อง งานด้านภาพหรือดนตรีประกอบ จึงขอละไว้ให้เป็นเอกสิทธิ์ของผู้ชมเองว่าจะซาบซึ้งกับทุกนัยยะที่ปรากฏเป็นภาพยนตร์อย่างไร เพียงแต่ขอให้ข้อมูลในพื้นที่นี้ว่าเป็นงานด้านภาพที่น่าทึ่งประทับใจที่ไม่ค่อยได้พบเห็นจากภาพยนตร์แอ๊กชั่นเรื่องไหน
งานออกแบบสร้างทั้งฉากและเสื้อผ้าหน้าผม โดยเฉพาะเสื้อผ้าคอสตูมนั้นแสดงความเป็นคิงฮูอย่างชัดเจน ผมตั้งข้อสังเกตนี้ให้ต่อเนื่องตั้งแต่ Come Drink With Me เป็นต้นมาแล้ว ตัวผมเองไม่มีความรู้เรื่องวัฒนธรรมการแต่งกายของจีนโบราณ แต่งานคอสตูมในภาพยนตร์ของคิงฮูทั้งหมดที่ได้ดู ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นเครดิตของฝ่ายออกแบบสร้าง มีลักษณะร่วมที่ต่อเนื่องมาทุกเรื่อง คือดูแล้วเป็นเสื้อผ้าที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันจริงๆ ไม่ได้เป็นเสื้อผ้าเพื่อความแปลกสวยเหมือนเป็นเสื้อผ้าของตัวละครงิ้วอย่างในยุครุ่งเรืองของชอว์บราเดอร์ โดยเฉพาะเสื้อผ้าของบรรดาจอมโหดทั้งหลายในภาพยนตร์ของจางเชอะที่ดูยังไงก็เหมือนนักเล่นมายากลหรือนักกายกรรมที่แสดงโชว์สดทางทีวี
ลักษณะของเสื้อผ้าแบบนี้ยังปรากฏมาจนถึง The Swordsman [เดชคัมภีร์เทวดา] ๑๙๙๐ ของฉีเคอะที่คิงฮูเข้ามามีเครดิตเป็นผู้กำกับที่ผมก็ยังถือว่าเป็นงานคอสตูมที่แสดงความเป็นคิงฮู ส่วนในเดชคัมภีร์เทวดาภาคหลังๆ ที่ทั้งเฉินเสี่ยวตงและฉีเคอะกำกับ และมีหลี่เหลียนเจี๋ยแสดงนั้น ไม่มีลักษณะเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายอย่างภาคแรกของคิงฮูที่แซม ฮุย นำแสดง
ฉากแอ๊กชั่นเป็นอีกงานที่ต้องเทไลค์ให้กองใหญ่ๆ ไม่น่าเชื่อว่านี่คืองานที่ผลิตเมื่อห้าสิบกว่าปีมาแล้ว โลดโผนสมจริงสวยงาม ผู้กำกับคิงฮูพัฒนางานตัดต่อและมุมกล้องรวมทั้งคิวต่อสู้ในฉากแอ๊กชั่นก้าวข้ามหงษ์ทองคะนองศึกและตะลุยแดนพยัคฆ์ของเขามาไกลทีเดียว ภาพยนตร์ยุคใหม่อาจทำได้น่าตะลึงกว่านี้ มีท่ายากกว่านี้ แต่นี่คือหมุดแรกๆ ของภาพยนตร์แขนงนี้ที่ภาพยนตร์รุ่นหลังๆ ยังไม่มีเรื่องไหนกล้าอวดอ้างเปรียบเทียบ
ด้วยงานด้านภาพและเทคนิคการเล่าเรื่องได้ทุ่มเทให้กับการขับเคลื่อนเนื้อหาและแสดงอารมณ์ตามแกนของเรื่อง งานด้านนักแสดงจึงไม่มีอะไรโดดเด่นมาก คิงฮูไม่ให้ความสำคัญกับคาแรกเตอร์หรือพัฒนาการด้านนี้มากนัก โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่องอย่างหยางฮุ่ยชิง ที่เธอต้องผ่านเรื่องราวมากมายตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่เป็นคุณหนูในบ้านขุนนางใหญ่
เป็นสมาชิกในครอบครัวที่ถูกฆ่าล้างตระกูลต้องระหกระเหินเร่ร่อน เป็นกองโจรต่อต้านกังฉินชั่ว เป็นคนรักมีความรักจนถึงขั้นมีลูกมีทายาท และสุดท้ายที่เธอน่าจะเป็นผู้ที่แสวงหาโมกขธรรมตามหลักปรัชญาศาสนา แต่พัฒนาการคาแรกเตอร์ของเธอมีไม่มาก นอกจากจะแสดงอาการเคียดขึ้งโกรธตลอดเวลา ตัวละครอื่นๆ ก็อยู่ในอาการเดียวกัน ที่จะแตกต่างหน่อยก็น่าจะเป็นบทกู้เสิ่งไจของซีจุ้น ที่ดูจะมีสีสันมากกว่าใคร ทั้งที่ไม่มีบทแอ๊กชั่นเหมือนบทของหยางฮุ่ยชิงหรือแม่ทัพสือของไป่อิง เพราะตัวละครกู้เสิ่งไจที่งานกำกับให้เวลากับการเล่าคาแร็กเตอร์มากที่สุด ได้แสดงอารมณ์ ไม่เก็บกดอย่างพวกขาบู๊ทั้งหลาย
ที่ต้องกล่าวถึงในด้านการแสดงก็คือเฉียวหงในบทของหลวงจีนฮุ่ยหยวน ที่ยึดเรื่องแย่งซีนไปเต็มๆ ในยี่สิบนาทีท้ายของเรื่อง เขามีภาพลักษณ์ของทั้งผู้บรรลุธรรมและผู้เชี่ยวชาญการยุทธ์ ทั้งที่ตอนนั้นเฉียวหงเองน่าจะยังไม่สูงวัยมากมัก แต่บุคลิกสอดรับและตอบสนองธีม “สัมผัสแห่งเซน” ได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ
เถียนเผิงที่น่าจะเป็นสมัยที่ไม่โด่งดังระดับพระเอกก็ทำได้ดีในบทโอหยังเหนียนพลพรรคของขุนนางชั่วที่ออกขับเคี่ยวตามล่าแม่นางหยางฮุ่ยชิง
มีข้อมูลว่าเฉินหลงและหงจินเป่าร่วมแสดงเป็นตัวประกอบในเรื่องนี้ด้วย หงจินเป่านั้นปรากฏเป็นองค์รักษ์ของขุนนางชั่วในตอนท้าย ได้ภาพมาอวดแล้ว ยังพยายามหาบทบาทหรือภาพของของเฉินหลงจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้าหาเจอคงได้นำมาแสดงไว้ในโอกาสต่อไป

หมุดหมายสำคัญของแอ๊กชั่นกำลังภายในเรื่องนี้ ควรค่าแก่การยกย่องด้วยประการทั้งปวง ดูหนัง 2021 เราดูภาพยนตร์กำลังภายในรุ่นหลังๆ แล้วย้อนกลับไปดูงานที่มีอายุเกินครึ่งร้อยปีเรื่องนี้แล้วจะเห็นพบว่าภาพยนตร์ใหม่ๆ ที่ว่านั้นไม่มีอะไรใหม่ นอกจากงานด้านเทคนิคที่จะมาเติมความหวือหวา ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือเป็นงานด้านภาพและคิวบู๊ที่ผ่านการฝึกซ้อมแบบนักกีฬา ตัวช่วยอย่างลวดสลิง คอมพิมเตอร์กราฟิคของฉากผาดโผนโลดโผน รวมทั้งมุมกล้องพันลึกพิสดาร อย่างโดรนช็อตหรือกล้องที่คอนโทรลแบบต่างๆ เพื่อผลพิเศษด้านภาพเท่านั้น



Tags : A Touch of Zen A Touch of Zen เหนือพยัคฆ์ เหนือพยัคฆ์

หนังที่เกี่ยวข้อง

ดูหนังออนไลน์ ดูหนังใหม่ชนโรงฟรี HD

moviehd24 เว็บไซต์ดูหนังออนไลน์ดูง่ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหนังพากย์ไทย หนังซับไทย หนังอังกฤษ หนังฝรั่ง หนังมาสเตอร์ หนังเอเชีย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ไม่เสียเงินใดๆ ดูหนังไม่มีโฆษณา หนังเต็มเรื่อง หนังใหม่อัพเดททุกวัน ดูหนังจุใจไม่เสียเงิน ดูแบบVIP

อ่านต่อ

ดูหนัง หนังใหม่ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นหนังแอคชั่น หนังเวทย์มนตร์ หนังบู๊ หนังรักโรแมนติก หนังมากมายให้เลือกดู ไม่ตัวเล่นหลัก ตัวเล่นสำรอง หนังผจญภัย หนังแฟนตาซี หนังเต็มเรื่องมาสเตอร์ ดูง่ายดูผ่านทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ ทีวีอื่นๆ